เทคโนโลยี

3 เทคโนโลยีมาแรงปี 2564

Pinterest LinkedIn Tumblr
3 เทคโนโลยีมาแรงปี 2564, Whale Energy Station

ฟาบิโอ ทิวิติ รองประธานบริษัท อินฟอร์ อาเซียน เขียนบทความ “3 เทคโนโลยีมาแรงปี 2564” คัดเลือกเทคโนโลยีปัญญา ประดิษฐ์ (AI) และดิจิทัล ซัพพลายเชน ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ที่กำลังจะมาถึง

1.คลาวด์ (Cloud)

3 เทคโนโลยีมาแรงปี 2564, Whale Energy Station

เทคโนโลยีคลาวด์จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการจัดการแข่งขันต่างๆ ยกตัวอย่าง การจัดแข่งขันเทนนิสยูเอสโอเพ่นปีนี้ประสบความสำเร็จในการนำระบบคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ยกระดับประสบการณ์เสมือนจริงให้กับเหล่าแฟนคลับที่ไม่สามารถอยู่ในสนามแข่งขันจริงได้ และต่อจากนี้เราจะได้เห็นการจัดงานต่างๆ ที่ต้องจัดในสถานที่หันมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหมาะสมกับผู้รับชมแต่ละรายมากขึ้น การแข่งขันสำคัญหลายรายการที่วางแผนไว้ในปีหน้า (2564) จะดึงดูดความสนใจผู้คนจากทั่วโลก เช่น การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงโตเกียว และการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน แน่นอนว่าเทคโนโลยีคลาวด์ก็ยืนหยัดพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์ในการชมการแข่งขันที่แฟนๆทั่วโลกเคยได้รับอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการสร้างประสบการณ์การรับชมรูปแบบใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีคลาวด์มาทรานส์ฟอร์มการจัดงานต่างๆนั้นมีมากมายมหาศาล เช่น การวิเคราะห์ความตื่นเต้นของกลุ่มผู้ชมแบบเรียลไทม์ เพื่อนำเสนอเป็นไฮไลต์และจัดการเรื่องการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ, การฟีดรายการสดได้ด้วยความหน่วง (latency) ที่ต่ำมากจริงๆ และการโต้ตอบกับกลุ่มผู้ชมที่เลือกไว้ และแน่นอนว่าการทำกิจกรรมทั้งหมดนี้ โฮสต์อยู่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ทรงพลัง

2.ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

3 เทคโนโลยีมาแรงปี 2564, Whale Energy Station

ตลาดแรงงานปี 2564 ที่ไม่สามารถคาดการณ์ใดๆได้ ทำให้องค์กรต่างๆจำเป็นต้องนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปช่วยในการเฟ้นหาผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน AI จะช่วยให้แผนกทรัพยากรบุคคลทำงานเชิงรุกในการจ้างงานได้มากขึ้น และช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ว่าผู้สมัครใดเข้ากันได้กับวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทด้วยการใช้ข้อมูลเพื่อวัดคุณภาพของการจ้างงานแต่ละครั้ง นวัตกรรมต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์ในการคัดกรองอัจฉริยะที่สามารถคัดกรองใบสมัครได้แบบอัตโนมัติ แชตบอทที่ทำหน้าที่เป็นผู้สรรหาพนักงานที่สามารถนัดหมายกับผู้สมัครได้แบบเรียลไทม์ และการสัมภาษณ์แบบดิจิทัลที่ทำผ่านออนไลน์ ซึ่งช่วยให้สามารถประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครแต่ละรายได้ จะเริ่มกลายเป็นวิธีการทำงานปกติของแผนกทรัพยากรบุคคล AI ยังมีศักยภาพสูงมากในการสร้างเวิร์กสเปซที่หลากหลายและครบวงจร สามารถลดอคติ และเพิ่มความเป็นกลางในการตัดสินใจเรื่องการจ้างงานผ่านอัลกอริทึ่มต่างๆที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะแยกแยะคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันของผู้สมัครแต่ละคนออกมาให้เห็น นอกจากนั้น การใช้ AI ในการดูแลสุขภาพจะกลายเป็นภารกิจสำคัญ โดยตลอดปี 2564 จะมีการนำ AI ไปใช้กับการดูแลสุขภาพในหลายด้านอย่างรวดเร็ว การใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งกับชุดข้อมูลต่างๆ ทั่วโลกได้แบบเรียลไทม์ จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพสามารถติดตามการสัมผัสระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้อย่างละเอียด, ช่วย ให้การวินิจฉัยแม่นยำ, ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ในการติดตามอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (personal protective equipment : PPE), จัดสรรบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาการให้วัคซีนให้มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนมากขึ้น

3.ดิจิทัล ซัพพลายเชน (Digital Supply Chain)

3 เทคโนโลยีมาแรงปี 2564, Whale Energy Station

ซัพพลายเชน (กระบวนการตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ ผลิต จัดเก็บ จนถึงการจัดส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือลูกค้า) จะกลายเป็นระบบดิจิทัลอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงทำให้ดิจิทัลซัพพลายเชนพัฒนาอย่างรวดเร็วในปี 2564 มุมมองเดิมๆของผู้รับผิดชอบด้านซัพพลายเชนที่เกี่ยวกับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันคือ เน้นไปที่เรื่องของประสิทธิภาพและค่าใช้จ่าย แต่ปัจจุบันจะเปลี่ยนไปเน้นในเรื่องของความคล่องตัวและความยืดหยุ่น และนั่นคือจุดที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง ดิจิทัลซัพพลายเชนจะช่วยให้ธุรกิจหนึ่งๆที่ประกอบด้วยองค์กรหลายแห่งทำงานร่วมกัน (multi-enterprise) สามารถเห็นและรับรู้ความเป็นไปในการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ สามารถวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ได้ดีขึ้น และใช้ระบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาดได้มากขึ้น ผู้รับผิดชอบด้านซัพพลายเชนจะสามารถปรับและใส่ความยืดหยุ่นให้กับระบบซัพพลายเชนของตนได้ตามความต้องการของตลาด และใช้ระบบนิเวศด้านพันธมิตรให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น เครื่องมือดิจิทัลต่างๆเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีที่ผสานระหว่างโลกความจริงและความเสมือนจริงเข้าด้วยกัน (AR) และการทำงานอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ที่มนุษย์เป็นผู้ออกแบบกระบวนการและขั้นตอน รวมถึงการตัดสินใจต่างๆ (robotic process automation : RPA) และคาดว่าจะยกระดับศักยภาพที่มีและนำไปสู่สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีอิทธิพลต่อลูกค้าเป็นอย่างมาก

รองประธานบริษัท อินฟอร์ อาเซียน ระบุว่า การถูกดิสรับ (disruptions) ของระบบซัพพลายเชนอย่างไม่น่าเชื่อในปี 2563 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการจับคู่ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่มีในตลาด ณ ขณะใดขณะหนึ่งเข้าด้วยกันได้แบบเรียลไทม์ และการคาดการณ์ต่างๆ ไม่ใช่งานที่มนุษย์จะทำได้สำเร็จเพียงลำพังอีกต่อไป มันไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไปที่จะมาคาดหวังให้ผู้รับผิดชอบด้านซัพพลายเชนทำการคาดการณ์ถึงการปิด-เปิดของตลาดในประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างฉับพลัน หรือให้อธิบายถึงวัสดุ และค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยคาดเดาไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ขอบเขตและข้อจำกัดด้านการขนส่งและการเดินทางของภาครัฐมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.