🛢สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 17 – 21 ก.ค. 66 และแนวโน้มสัปดาห์ที่ 24 – 28 ก.ค. 66
✔ ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เฉลี่ยสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. 66 ลดลง 0.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 79.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาปิดวันที่ 21 ก.ค. 66 อยู่ที่ 81.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล กลับมาเหนือระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน จากสถานการณ์สงครามยูเครนและรัสเซียตึงเครียดอาจก่อให้เกิดวิกฤตอาหารทั่วโลก ล่าสุด วันที่ 17 ก.ค. 66 รัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงรับรองความปลอดภัยให้ยูเครนส่งออกธัญพืชในทะเลดํา (Black Sea Grain Deal) และโจมตีท่าเรือและคลังเก็บธัญพืชของยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุปทานธัญพืชชะงักงันและส่งผลต่ออุปทาน Ethanol และ Biodiesel ขณะที่รัสเซียเตือนว่าไม่รับประกันความปลอดภัยของเรือสินค้าที่แล่นผ่านทะเลดำเข้ายูเครนทุกลำโดยถือว่าเป็นเป้าหมายที่อาจขนส่งยุทโธปกรณ์ทางทหาร เหตุข้างต้นเป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศผ่านทะเลดำ
✔ภาพรวมด้านปัจจัยพื้นฐาน มีแรงหนุนจากภาวะตึงตัวตามมาตรการของ OPEC+ ซึ่ง Bloomberg รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบและคอนเดนเสทของรัสเซีย (ผ่านทางท่อและทางเรือ) ในเดือน มิ.ย. 66 ลดลง 3 แสนบาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 4.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย นาย Alexander Novak ประกาศว่ารัสเซียจะลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ 5 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค. 66
✔ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคา ICE Brent จะเคลื่อนไหวในกรอบ 78-85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยนักลงทุนติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) และธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank: ECB) ในสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า Fed และ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เนื่องจากยังไม่บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่สูงกว่าเพดานที่ 2% จากปีก่อนหน้า อนึ่ง ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ (Consumer Price Index: CPI) ในเดือน มิ.ย. 66 อยู่ที่ 3.0% จากปีก่อนหน้า ต่ำสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 64 และของยูโรโซน (Harmonised Index of Consumer Prices: HICP) ในเดือน มิ.ย. 66 อยู่ที่ 5.5% จากปีก่อนหน้า ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 65
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕หน่วยงานศุลกากรของจีน (General Administration of Customs: GAC) รายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน มิ.ย. 66 เพิ่มขึ้น 4.6% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 12.72 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยนำเข้าจากรัสเซียเพิ่มขึ้น 9.71% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 2.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์
➕เกิดคลื่นความร้อนในยุโรป โดยเฉพาะอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ ซึ่งมีแนวโน้มผลักดันให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ล่าสุด The Guardian รายงานอุณหภูมิในเมือง Rome, Florence และ Bologna ของอิตาลี สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
➕Baker Hughes Inc. รายงานจำนวน Rig ขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. 66 ลดลง 7 แท่น จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 530 แท่น ต่ำสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 65
🛢 ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖ JP Morgan ปรับลดคาดการณ์ GDP ของจีน ในปี 2566 อยู่ที่ 5.0% จากปีก่อนหน้า (คาดการณ์ครั้งก่อนที่ 5.5% จากปีก่อนหน้า)
➖ สำนักข่าวรัสเซีย TASS รายงานเวเนซุเอลามีแผนเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในปี 2566 โดยจะส่งออกราว 60% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด ทั้งนี้ OPEC รายงาน เวเนซุเอลาผลิตน้ำมันดิบในเดือน มิ.ย. 66 อยู่ที่ 0.77 ล้านบาร์เรลต่อวัน