🛢สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 19 – 23 ธ.ค. 65 และแนวโน้ม 26 – 30 ธ.ค. 65
✔ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้นกว่า 1-2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อุปทานน้ำมันมีแนวโน้มตึงตัว โดยรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียประกาศจะลดการผลิตน้ำมันดิบลง 5-7% จากระดับการผลิตในปี 2565 ภายในต้นปี 2566 เพื่อตอบโต้สหภาพยุโรป (EU), กลุ่มประเทศ G7 และออสเตรเลีย อย่างไรก็ตามในช่วงปลายสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบลดลง จากความกังวลต่อจีน ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้น
✔National Weather Service (NWS) ของสหรัฐฯ ประกาศประชาชนกว่า 200 ล้านคน กำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ Bomb Cyclone เกิดพายุหนาวจัดพัดรุนแรงหลายพื้นที่
✔อย่างไรก็ตาม เมื่อ 23 ธ.ค. 65 โรงกลั่นบริเวณอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ กำลังรวมกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หยุดดำเนินการ จาการกลั่นปกติที่ระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้การผลิตน้ำมันดิบในรัฐ North Dakota ทางเหนือ ลดลงประมาณ 300,000-350,000 บาร์เรลต่อวัน
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 16 ธ.ค. 65 ลดลงจากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 418.2 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 422.4 ล้านบาร์เรล
➕Reuters ประเมินรัสเซียส่งออกน้ำมันดิบ Urals จากท่าเรือ Baltic Sea ในเดือน ธ.ค. 65 ลดลงจากเดือนก่อน 1 ล้านตัน มาอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านตัน
➕หน่วยงานศุลกากรของจีนรายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียในเดือน พ.ย. 65 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.6% อยู่ที่ 1.90 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่นำเข้าจากซาอุดีอาระเบียลดลงจากปีก่อน 10.7% อยู่ที่ 1.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖ท่อ Keystone (622,000 บาร์เรลต่อวัน) ซึ่งขนส่งน้ำมันดิบจากแคนาดาสู่สหรัฐฯ มีแนวโน้มกลับมาดำเนินการเต็มรูปแบบ หลังปิดตั้งแต่ 7 ธ.ค. 65 เหตุพบน้ำมันรั่วไหลในสหรัฐฯ ปริมาณ 14,000 บาร์เรล โดยหน่วยงานกำกับดูแลการขนส่งน้ำมันทางท่อของสหรัฐฯ อนุมัติแผนซ่อมแซมและกำหนดการเปิดดำเนินการท่อดังกล่าวภายในช่วง 28-29 ธ.ค. 65
➖Joint Organizations Data Initiative รายงานซาอุดีอาระเบียส่งออกน้ำมันดิบ ในเดือน ต.ค. 65 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 52,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 7.77 ล้านบาร์เรลต่อวัน