🛢 สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 28 พ.ย. – 2 ธ.ค. 65 และแนวโน้ม 5 – 9 ธ.ค. 65
✔ ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เฉลี่ยสัปดาห์ล่าสุดลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 จากความไม่แน่นอนของมาตรการ Zero-COVID ในจีน ของประธานาธิบดี Xi Jinping ที่กระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน และไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้
✔ ทางด้านอุปทาน ที่ประชุม The OPEC and non-OPEC Ministerial Meeting ครั้งที่ 34 ของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) มีมติคงแผนลดการผลิตน้ำมันดิบ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน พ.ย. 65 จนถึงอย่างน้อยในเดือน มิ.ย. 66
✔ ขณะที่กลุ่ม G7 พร้อมด้วยออสเตรเลียและสหภาพยุโรป (EU) ตกลงการกำหนดเพดานราคา (Price Cap) ของน้ำมันดิบรัสเซียที่ขนส่งทางทะเลไว้ที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เริ่มบังคับใช้วันที่ 5 ธ.ค. 65 ทั้งนี้ อย่างไรก็ดี โฆษกรัฐบาลรัสเซียชี้ว่ารัสเซียพร้อมที่จะตอบโต้และจะไม่ยอมรับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าว
✔ ผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์จาก Reuters คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในปี 65 จะเฉลี่ยที่ 100.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และในปี 66 จะเฉลี่ยที่ 95.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
🛢 ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖ จับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) ในที่ 13-14 ธ.ค. 65 ซึ่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา San Francisco คาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.75% จากระดับปัจจุบัน มาอยู่ที่ 4.5 – 4.75%
➖ National Bureau of Statistics of China (NBS) ของจีน รายงาน Purchasing Managers’ Index (PMI) ในเดือน พ.ย. 65 อยู่ที่ 48 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 49.2 จุด
🛢 ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕ Bloomberg รายงานยุโรปนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียทางทะเล สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ธ.ค. 65 ลดลง 1.5 แสนบาร์เรลต่อวัน
➕ ผู้อำนวยการ International Energy Agency (IEA) คาดว่ารัสเซียจะผลิตน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับปัจจุบัน ภายในไตรมาส 1/66 ทั้งนี้ รัสเซียผลิตน้ำมันดิบในเดือน ต.ค. 65 อยู่ที่ 10.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน
➕ Reuters รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC (13 ประเทศ) ในเดือน พ.ย. 65 ลดลง 0.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า