🛢 สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 21 – 25 พ.ย. 65 และแนวโน้ม 28 พ.ย. – 2 ธ.ค. 65
✔ ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในสัปดาห์ล่าสุดยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีนยังรุนแรง กดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน โดยประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงมาตรการ Lockdown ซึ่งเข้มงวดและยาวนานเกินไป
✔ วันที่ 26 พ.ย. 65 รัฐบาลสหรัฐฯ ออกใบอนุญาตให้แก่ Chevron Corp. ผลิตน้ำมันดิบในเวเนซุเอลา เป็นเวลา 6 เดือน โดยยังคงมาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานเวเนฯ แต่ผ่อนผันให้เฉพาะน้ำมันดิบที่ส่งออกมาสู่สหรัฐฯ ทั้งนี้เวเนฯ ผลิตน้ำมันอยู่ที่ระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน
✔ ให้จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) วันที่ 13-14 ธ.ค. 65 ซึ่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา San Francisco นางสาว Mary Daly คาดการณ์ว่า FOMC จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.75% อยู่ที่ 4.5-4.75%
🛢 ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖ สหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถหาข้อยุติ มาตรการตั้งเพดานราคา (Price Cap) น้ำมันดิบรัสเซีย ในการประชุมวันที่ 24 พ.ย. 65 และเตรียมหารืออีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ โดยมีความเห็นแตกต่างกันหลายกลุ่ม ทำให้ตลาดคลายความกังวลต่อมาตรการตอบโต้จากรัสเซีย
➖ กระทรวงพลังงานของอาเซอร์ไบจานรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ต.ค. 65 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 547,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ภายใต้ข้อตกลง OPEC+ โควตาของอาเซอร์ไบจานอยู่ที่ระดับ 717,000 บาร์เรลต่อวัน
🛢 ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕ รมว.กระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย เจ้าชาย Abdulaziz bin Salman ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวจาก Wall Street Journal ซึ่งรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ กำลังพิจารณาเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในการประชุมครั้งต่อไป (วันที่ 4 ธ.ค. 65) โดยเจ้าชายฯ แถลงว่า OPEC+ ไม่หารือการตัดสินใจใด ๆ ก่อนการประชุม และพร้อมจะเข้าแทรกแซงตลาดอีก หากจำเป็นต้องปรับลดอุปทาน เพื่อให้ตลาดอยู่ในภาวะสมดุล
➕ Reuters รายงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งในยูเครนปิดดำเนินการ หลังจากถูกขีปนาวุธโจมตี เมื่อ 23 พ.ย. 65 ทำให้ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 9 เดือน ในเมือง Kyiv และหลายพื้นที่ รวมถึงมอลโดวาประเทศเพื่อนบ้าน