🛢สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 25 – 29 ก.ค. 65 และแนวโน้ม 1 – 5 ส.ค. 65
✔ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในสัปดาห์ล่าสุดผันผวน โดย ICE Brent และ NYMEX WTI ลดลง ขณะที่ Dubai เพิ่มขึ้น ตลาดกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันเป็นอันดับสองของโลก มีแนวโน้มถดถอย โดยสำนักสถิติแห่งชาติของจีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในเดือน ก.ค. 65 ลดลง 1.2 จุด
✔อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากปัจจัยเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fund Flow) หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนกลับมาเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง
✔จับตาการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในวันที่ 3 ส.ค. 65 โดยตลาดคาดว่า OPEC+ จะคงโควตาการผลิตในเดือน ก.ย. 65 ไว้ที่ระดับ 42.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖27 ก.ค. 65 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.75% มาอยู่ในช่วง 2.25%-2.5%
➖รายงาน World Economic Outlook ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2565 จากปีก่อนอยู่ที่ +3.2% ลดลงจากคาดการณ์ในเดือน เม.ย. 65 ที่ +3.6% จากปีก่อน
➖สหรัฐฯ ประกาศขายน้ำมันจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ ปริมาณ 20 ล้านบาร์เรล ตามแผนการระบาย SPR ปริมาณรวม 180 ล้านบาร์เรล ภายใน 6 เดือน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้สหรัฐฯ ได้ดำเนินการขาย 125 ล้านบาร์เรล และส่งมอบให้ผู้ซื้อแล้วเกือบ 70 ล้านบาร์เรล
➖Rosstat Statistics Office ของรัสเซียรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสท ในเดือน มิ.ย. 65 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 49,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕Interfax รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC+ เดือน มิ.ย. 65 อยู่ที่ 37.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าโควตาใหม่ ซึ่งผ่อนคลายมาอยู่ที่ระดับ 42.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ทำให้อัตราความร่วมมือในการปฏิบัติตามแนวทางเดิม คือลดการผลิตสูงถึง 320%
➕กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นรายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน มิ.ย. 65 เพิ่มขึ้น 22.1% จากปีก่อน นำเข้าก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 1.7% และนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้น 17.7% จากปีก่อน