สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 30 ธ.ค. 67 – 3 ม.ค. 68 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 6 – 10 ม.ค. 68
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและสภาพอากาศที่หนาวเย็น (Cold Snap) ในสหรัฐฯ และยุโรป
วันที่ 3 ม.ค. 68 Reuters รายงานรัฐบาลจีนอนุมัติงบประมาณ 1 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อสนับสนุนโครงการเชิงยุทธศาสตร์ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง การก่อสร้างทางรถไฟและสนามบิน การพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรม และการยกระดับศักยภาพเขตเศรษฐกิจพิเศษ อนึ่ง ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนมีแผนการออกพันธบัตรพิเศษมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ วงเงิน 3 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 4.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ)
วันที่ 4 ม.ค. 68 สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ ประกาศเตือนสภาพอากาศหนาวเย็นรุนแรงและพายุหิมะ (Polar Vortex) ในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออก ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยอุณหภูมิอาจลดลงต่ำกว่าปกติราว 7-14 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ AccuWeather คาดการณ์ว่าเดือน ม.ค. 68 อาจเป็นเดือน ม.ค. ที่หนาวที่สุดสำหรับสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2554 ส่งผลให้อุปสงค์เชื้อเพลิงสำหรับทำความอบอุ่นเพิ่มขึ้น
Goldman Sachs คาดการณ์อิหร่านมีแนวโน้มผลิตน้ำมันดิบลดลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับปกติ มาอยู่ที่ 3.25 ล้านบาร์เรล ภายในไตรมาส 2/68 จากรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้น
Kpler คาดการณ์สมาชิกกลุ่ม OPEC+ มีแนวโน้มเลื่อนแผนเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปริมาณเดือนละ 138,000 บาร์เรลต่อวัน ออกไปในช่วงไตรมาส 4/68 จากแผนเดิมซึ่งจะเริ่มต้นในเดือน เม.ย. 68 – ก.ย. 69 เนื่องจากคาดว่าอุปทานน้ำมันโลกในปี 2568 จะล้นตลาด