สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 30 ก.ย. – 4 ต.ค. 67 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 7 – 11 ต.ค. 67
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
วันที่ 1 ต.ค. 67 อิหร่านระดมโจมตีบริเวณเมือง Tel Aviv ในอิสราเอลด้วยมิสไซล์กว่า 180 ลูก ซึ่งเป็นการโจมตีเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่ม Hezbollah ทำให้ตลาดวิตกว่าอิสราเอลจะตอบโต้อิหร่านหรือไม่ ขณะเดียวกัน อิสราเอลยังคงโจมตีกลุ่ม Hezbollah อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันที่ 5-6 ต.ค. 67 กองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีเขตชานเมือง Beirut เมืองหลวงของเลบานอนอย่างหนัก โดยทางการอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีกำหนดเป้าหมายไปที่คลังเก็บอาวุธของกลุ่ม Hezbollah ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมในเลบานอนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 67 มากกว่า 2,000 ราย
วันที่ 1 ต.ค. 67 United Kingdom Maritime Trade Operations (UKMTO) รายงานกลุ่ม Houthi ในเยเมนใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ (Uncrewed Surface Vessel) และมิสไซล์โจมตีเรือขนส่งน้ำมันดิบ Cordelia Moon (ชนิด Suezmax ปริมาณบรรทุก 1 ล้านบาร์เรล) ติดธงสัญชาติปานามา และเรือขนส่งสินค้า Minoan Courage (ชนิด Panamax ปริมาณการบรรทุก 500,000 บาร์เรล) ติดธงสัญชาติไลบีเรีย ขณะแล่นผ่านทะเลแดง อย่างไรก็ดี เรือทั้ง 2 ลำไม่ได้รับความเสียหายรุนแรงและสามารถเดินทางต่อได้
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในเดือน ก.ย. 67 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 254,000 ราย (Reuters Poll คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 140,000 ราย) สูงสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่อัตราว่างงาน (Unemployment Rate) ลดลงจากเดือนก่อน 0.1% อยู่ที่ 4.1%
วันที่ 2 ต.ค. 67 ที่ประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) มีมติให้กลุ่ม OPEC+ คงแผนเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ธ.ค. 67 ที่ระดับ 189,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ OPEC+ (18 ประเทศ) ผลิตน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. 67 อยู่ที่ 34.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน (โควตาการผลิตอยู่ที่ 33.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน) นอกจากนี้ ที่ประชุมขอความร่วมมือให้อิรักและคาซัคสถานลดการผลิตที่เกินโควตาจากทั้ง 2 ประเทศ ประมาณ 150,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ต.ค. 67