สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 23 – 27 ก.ย. 67 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 30 ก.ย. – 4 ต.ค. 67
ราคาน้ำมันดิบผันผวน สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด
Financial Times คาดการณ์สมาชิก OPEC+ จำนวน 8 ประเทศ คงแผนเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 180,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 67 โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียซึ่งคาดว่าจะผลิตและส่งออกมากขึ้นเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด (Market Share) โดยล่าสุด Joint Organizations Data Initiative (JODI) รายงานปริมาณการผลิตและส่งออกของซาอุดีอาระเบียในเดือน ก.ค. 67 อยู่ที่ 8.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 5.74 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
วันที่ 25 ก.ย. 67 United Nations Libya mission (UNSMIL) เผยว่าคณะผู้แทนจากรัฐบาลกลางและกองกำลัง Libyan National Army (LNA) เห็นชอบในกระบวนการแต่งตั้งผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของธนาคารกลางลิเบีย ซึ่งส่งผลให้ความขัดแย้งยุติลง และการผลิตน้ำมันในประเทศกลับมาดำเนินการตามปกติ โดย Energy Aspects คาดการณ์ลิเบียจะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 1.1 – 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายใน 7 – 10 วัน หากกองกำลัง LNA ล้มเลิกการปิดแหล่งผลิตน้ำมัน
วันที่ 26 ก.ย. 67 ธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China: PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร นับเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมุ่งเป้าไปที่การฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้านการเงิน และตลาดหุ้น ขณะที่กระทรวงการคลังและกระทรวงกิจการพลเรือนจะออกเงินอุดหนุนค่าครองชีพในรูปแบบการแจกเงินสดครั้งเดียวให้แก่กลุ่มคนที่ยากจนมากที่สุด ได้แก่ คนไร้บ้านและเด็กกำพร้า ในวันที่ 1 ต.ค. 67 ซึ่งตรงกับวันชาติจีน และใช้มาตรการทางการคลังร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ด้วย
ความขัดแย้งในตะวันออกกลางขยายวงกว้าง โดยล่าสุดวันที่ 29 ก.ย. 67 เครื่องบินรบของอิสราเอลทิ้งระเบิดท่าเรือ Hodeidah ในเยเมน เพื่อตอบโต้ Houthi ที่โจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ ต่อเนื่องจากการสังหารผู้นำของกลุ่ม Hezbollah นาย Sayyed Hassan Nasrallah โดยการโจมตีทางอากาศในกรุง Beirut ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมในเลบานอนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 67 มากกว่า 1,000 ราย