สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 9 – 13 ก.ย. 67 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 16 – 20 ก.ย. 67
ราคาน้ำมันดิบต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังนักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจจีน
จีนกำลังเผชิญวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ เนื่องจากราคาขายบ้านใหม่ (New Home Prices) ในเดือน ส.ค. 67 ลดลงจากปีก่อนหน้า 5.3% ลดลงเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน ประกอบกับยอดขายรถยนต์ในเดือน ส.ค. 67 ลดลงจากปีก่อนหน้า 5.0% อยู่ที่ 2.45 ล้านคัน อย่างไรก็ตามยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle: NEV) โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเดือน ส.ค. 67 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 30.02% อยู่ที่ 1.1 ล้านคัน คิดเป็น 44.8% ของยอดขายรถยนต์รวม
กลุ่ม OPEC ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลก ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 โดยรายงานฉบับเดือน ก.ย. 67 ของ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.04 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 104.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อน 0.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.73 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 105.98 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากครั้งก่อน 0.13 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากจีนหันไปใช้รถบรรทุกที่ใช้เชื้อเพลิง LNG และรถยนต์ไฟฟ้า
สถาณการณ์พายุเฮอริเคน Francine ในแถบอ่าวเม็กซิโก สหรัฐฯ บริษัท Shell, ExxonMobil และ Chevron ให้พนักงานกลับเข้าประจำการแล้ว หลังพายุเฮอริเคน Francine อ่อนกำลัง โดยคาดการณ์แหล่งผลิตน้ำมันดิบและก๊าซฯ แถบอ่าวเม็กซิโก จะกลับมาดำเนินการตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 67 ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซฯ แถบ Gulf of Mexico วันที่ 13 ก.ย. 67 อยู่ที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 1.2 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากระดับปกติที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 2.1 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (14% และ 5% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซฯ ในสหรัฐฯ ตามลำดับ)
จับตาการประชุมนโยบายทางการเงิน (FOMC) วันที่ 17-18 ก.ย. 67 โดยนักลงทุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 5%-5.25% หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ชี้วัดอัตราเงินเฟ้อในเดือน ส.ค. 67 อยู่ที่ +2.5% จากปีก่อนหน้า ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 67 ใกล้เคียงอัตราเป้าหมายที่ 2%