ราคาน้ำมันดิบยังเพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่ม Hezbollah ในเลบานอน อาจจะลุกลามขยายวงกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ดึงให้อิหร่านเข้าร่วมสงครามโดยตรง และทำให้อุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลางตึงตัว
กลุ่ม Houthi ในเยเมนยังโจมตีเรือขนส่งสินค้าบริเวณทะเลแดงอย่างต่อเนื่อง อาทิ เรือ MSC Sarah V ติดธงไลบีเรีย สัญชาติกรีก เมื่อ 26 มิ.ย. 67 และเรือ Seajoy ติดธงมอลตา สัญชาติกรีก เมื่อ 27 มิ.ย. 67 รวมถึงส่งโดรนหลายลำพุ่งเป้าโจมตีท่าเรือ Haifa ของอิสราเอล
สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทเรือในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย ได้แก่ Sea Route Ship Management, Almanac Ship Management, และ Al Anchor Ship Management และเรือ 11 ลำ ที่ขนส่งน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของอิหร่าน
โรงกลั่นน้ำมัน NORSI (340,000 บาร์เรลต่อวัน) ในรัสเซียของบริษัท Lukoil กลับมาเดินเครื่องหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ (CDU-6: 180,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่ระดับ 60% เมื่อ 22 มิ.ย. 67 ทั้งนี้ NORSI เป็นโรงกลั่นใหญ่อันดับ 4 ของรัสเซีย ที่หยุดดำเนินการมาตั้งแต่ 12 มี.ค. 67 หลังถูกโดรนยูเครนโจมตี
สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ (U.S. Bureau of Economic Analysis: BEA) รายงานดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน (Core Personal Consumption Expenditure: PCE) ในเดือน พ.ค. 67 อยู่ที่ +2.6% จากปีก่อน ต่ำสุดตั้งแต่ มี.ค. 64