🛢สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 18 – 22 ก.ค. 65 และแนวโน้ม 25 – 29 ก.ค. 65
✔ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้นกว่า 1-4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยในช่วงต้นสัปดาห์ตลาดวิตกว่าจะเกิดวิกฤติอุปทานพลังงาน หากรัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติไปยุโรปหลังซ่อมบำรุงประจำปี อย่างไรก็ตามช่วงปลายสัปดาห์ราคาปรับตัวลดลง โดยรัสเซียเริ่มกลับมาส่งมอบก๊าซฯ
✔นักลงทุนกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจ อาทิ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่อาจลุกลาม หลังกลุ่มผู้ซื้อหยุดผ่อนชำระเงินกับธนาคาร อาจทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถดำเนินการต่อไป
✔จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา St. Louis คาดการณ์ว่ามีโอกาสมากที่ FOMC จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% จากระดับปัจจุบันที่ 1.5%-1.75% ขณะที่บางกระแสคาดการณ์ว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 1%
.
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕Gazprom ของรัสเซียแจ้งเหตุสุดวิสัยในการส่งมอบก๊าซฯ ต่อลูกค้าในยุโรปหลายราย เนื่องจาก ‘สถานการณ์พิเศษ’ (Extraordinary Circumstance)
➕คลื่นความร้อนครอบคลุมสหรัฐฯ ซึ่งต้องเผชิญอุณหภูมิสูงถึงระดับประมาณ 100 ºF (38 ºC) ทำให้อุปสงค์การใช้ไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศพุ่งสูงขึ้น
➕Joint Organizations Data Initiative รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียเดือน พ.ค. 65 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 7.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามซาอุฯ ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ 10.54 ล้านบาร์เรลต่อวัน
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖EU ผ่อนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยปรับขยายการยกเว้นให้บริษัทการค้าใน EU สามารถทำธุรกรรมกับรัฐวิสาหกิจรัสเซีย และจัดส่งไปยังประเทศที่สามได้
➖ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ในแคนาดาสู่โรงกลั่นสหรัฐฯ กลับมาดำเนินการ หลังบริษัท TC Energy ประกาศเหตุสุดวิสัยในการส่งมอบ เนื่องจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง
➖บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียประกาศจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบมาอยู่ที่ระดับ 1.2 MMBD ภายในวันที่ 5 ส.ค. 65
➖ธนาคารกลางยุโรปประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554 โดยเพิ่ม 0.5% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0 ส่วนอัตราประมูลเงินสด (Cash Auction) รายสัปดาห์และรายวัน อยู่ที่ 0.50% และ 0.75%
