✔ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ล่าสุดปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ภายหลัง International Monetary Fund (IMF) ปรับลดคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) ในปี 2565 ลดลงจากคาดการณ์เดิม เนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับขึ้นเร็วกว่าคาดการณ์เดิม ซึ่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา San Francisco ส่งสัญญาณว่ามีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐญ (FOMC) วันที่ 26-27 ก.ค. 65
✔และรัสเซียผิดนัดชำระหนี้ (Default) อย่างเป็นทางการในวันที่ 26 มิ.ย. 65 หลังครบกำหนดผ่อนผัน (Grace Period) จากที่มีกำหนดให้ชำระตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 65 ซึ่งรัสเซียไม่สามารถชำระหนี้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ โดยการผิดนัดชำระหนี้ของรัสเซียถือเป็นการถูกบีบโดยสหรัฐฯ เนื่องจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกคำสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์ทำธุรกรรมใดๆ กับรัฐบาลรัสเซีย
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖23 มิ.ย. 65 Reuters คาดการณ์ OPEC+ จะมีมติเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันเดือน ส.ค. 65 ที่ 648 KBD ตามข้อตกลงจากการประชุม OPEC+ ในวันที่ 2 มิ.ย. ทั้งนี้ OPEC+ จัดประชุมในวันที่ 30 มิ.ย. 65 โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนเยือนซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางในเดือน ก.ค. 65
➖สำนักสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ในเดือน พ.ค. 65 อยู่ที่ +9.1% จากปีก่อน สูงสุดตั้งแต่ปี 25 และเพิ่มจากเดือน เม.ย. 65 ซึ่งอยู่ที่ +9% จากปีก่อน
➖Petroleum Planning and Analysis Cell (PPAC) ของอินเดีย รายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบ ในเดือน พ.ค. 65 ลดลง 9.1% จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 4.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕Reuters รายงานโรงกลั่นน้ำมัน Novoshakhtinsk ของรัสเซียกลับมาดำเนินการตามปกติ ภายหลังปิดซ่อมแซมจากเหตุระเบิดเนื่องจากการโจมตีโดยโดรนของยูเครน
➕กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. 65 ลดลง 2,000 ราย จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 229,000 ราย