🛢️อัปเดตสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 24-28 ม.ค. 65 และแนวโน้ม 31 ม.ค. – 4 ก.พ.65
✔️ ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ทำสถิติปิดตลาดเหนือระดับ 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลจากความกังวลต่อความตึงเครียดบริเวณชายแดนรัสเซียและยูเครนเนื่องจากไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO สหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปจะรับรองยูเครนเข้าเป็นสมาชิกซึ่งจะมีมาตรการส่งกองกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ประเทศที่เป็นสมาชิกหากมีการคุกคาม
✔️ เลขาธิการใหญ่ของ NATO เตือนยุโรปจะต้องจัดหาแหล่งพลังงานสำรองอื่น เพราะมีแนวโน้มที่รัสเซียจะใช้การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเป็นข้อต่อรอง ซึ่งยุโรปนำเข้าก๊าซฯ จากรัสเซียในปี 2564 อยู่ที่ 1,549 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง รวมทั้ง FGE คาดการณ์หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย อาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันของรัสเซียหายจากตลาดน้ำมันโลกถึง 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะสนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้รัสเซียผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสทในเดือน ธ.ค. 64 อยู่ที่ 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
✔️ ด้านเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 65 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0 – 0.25% โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปและยืนยันยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณทางการเงินในเดือน มี.ค. 65 โดย Bank of America คาดการณ์ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.25% เป็นจำนวน 7 ครั้ง ในปี 2565 เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อ
✔️ ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้ราคา ICE Brent มีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 88 – 93.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
🛢️ ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕ Platts รายงานโรงกลั่นของรัฐบาลจีนซึ่งประกอบด้วย Sinopec, PetroChina, CNOOC และ Sinochem นำน้ำมันดิบเข้ากลั่นในเดือน ม.ค. 65 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.73 จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 7.74 ล้านบาร์เรลต่อวัน ของกำลังการกลั่นรวม 9.59 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อรองรับอุปสงค์ในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาว
🛢️ ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖ EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ม.ค. 65 เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 416.2 ล้านบาร์เรล
