สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์ที่ 5-9 ก.ค. 64 และแนวโน้ม 12-16 ก.ค. 64 โดยทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

➕ รายงานฉบับเดือน ก.ค. 64 ของ Energy Information Administration (EIA) ของสหรัฐฯ  คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลก ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 97.63 ล้านบาร์เรลต่อ และในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน  3.73 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 101.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน

🛢️ ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

➖วันที่ 5 ก.ค. 64 กลุ่ม OPEC+ เลื่อนการประชุมครั้งที่ 3 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการลดปริมาณการผลิต ส่งผลให้ OPEC+ ลดปริมาณการผลิตตั้งแต่เดือน ส.ค. 64 เท่ากับข้อตกลงในเดือน ก.ค. 64 ที่ระดับ 5.759 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนกว่าจะมีการประชุมครั้งถัดไปทั้งนี้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์คัดค้านการขยายเวลาลดการผลิตที่จะสิ้นสุดลงเดือน เม.ย. 65 ออกไปเป็นเดือน ธ.ค. 65

➖อุปสงค์น้ำมันโลกถูกกดดันจากการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 สายพันธุ์ Delta โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รวมทั้งประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้มหกรรมกีฬา Olympics (23 ก.ค.-8 ส.ค. 64) ซึ่งกรุง Tokyo เป็นเจ้าภาพ จัดแบบไม่มีผู้ชมเข้าสนาม ทำให้สูญรายได้จากค่าตั๋ว 815 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยนาย Yoshihide Suga นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุง Tokyo ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. ถึง 22 ส.ค. 64

🛢️ แนวโน้มราคาน้ำมัน

📌 ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้วิเคราะห์ทางเทคนิคราคาน้ำมันดิบ ICE Brent สัปดาห์นี้อยู่ระหว่าง 73 – 77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฯ และจีน จากการฉีดวัคซีนที่ขยายในวงกว้าง ส่งผลให้มีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ทำให้ประชาชนมีการเดินทางเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ COVID-19 ในอินเดียในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้กลับมาแพร่ระบาดรุนแรงอีกครั้ง ล่าสุด Worldometer รายงาน ณ วันที่ 11 ก.ค. 64 อินเดียพบผู้ติดเชื้อ COVID-19  รายใหม่ 37,676 รายต่อวัน ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 30,873,907 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก  และยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 408,792 ราย

📌ให้จับตาการแถลงการณ์รอบครึ่งปีของ นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต่อคณะกรรมาธิการการเงินประจำวุฒิสภาในวันที่ 14 ก.ค. 64 เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของ Fed เพื่อกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการแพร่ระบาดของ COVID-19