สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์ที่ 1-5 มี.ค. 64 และแนวโน้มสัปดาห์ที่ 8-12 มี.ค. 64 โดยหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ🛢
➖• ราคาน้ำมันดิบในช่วงต้นสัปดาห์ถูกกดดันหลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า ทำให้น้ำมันซึ่งส่วนใหญ่ซื้อขายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือเงินตราสกุลอื่นๆ ประกอบกับผู้ค้ากังวลว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันของจีนในไตรมาส 2/64 อาจชะลอตัวลง หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก🛢
➕ • อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบในช่วงปลายสัปดาห์เพิ่มขึ้น หลังการประชุมกลุ่ม OPEC+ ในวันที่ 4 มี.ค. 64 ลงมติตัดสินใจขยายมาตรการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปในเดือน เม.ย. 64 โดยซาอุดิอาระเบียยังคงลดปริมาณการผลิตเป็นพิเศษ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าซาอุฯ จะหยุดลดการผลิต และ OPEC+ จะปรับการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมเป็น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
แนวโน้มราคาน้ำมัน🛢
ราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าทั้ง Brent และ WTI ปิดตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม สู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน และเช้าวันนี้ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องโดย Brent เคลื่อนไหวบริเวณ 70.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นจากความตึงเครียดทางการเมืองโลก หลังมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 64 ท่าส่งออกน้ำมัน Ras Tanura ในซาอุฯ (6.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก ถูกขบวนการ Houthi ในเยเมน โจมตีด้วยโดรนและจรวดขีปนาวุธ อย่างไรก็ตามทางการซาอุฯ แถลงหน่วยรักษาความปลอดภัยสามารถสกัดกั้นการโจมตีดังกล่าว โดยไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ และความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน