สถานการณ์น้ำมันสัปดาห์ 18-22 ม.ค. 64 และคาดการณ์สัปดาห์ 25-29 ม.ค. 64 โดยหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ🛢
➖ สถานกาณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงยืดเยื้อ นาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีเยอรมนีและผู้ว่าการจาก 16 รัฐ มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการขยายเวลามาตรการ Lockdown ร้านค้าและโรงเรียนไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ. 64 จากเดิมมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค. 64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 โดยเฉพาะเมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์ใหม่ นอกจากนี้รัฐบาลเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ร่วมมือให้พนักงาน Work From Home (WFH) จนถึงวันที่ 15 มี.ค. 64
➖ รายงานฉบับเดือน ม.ค. 64 ของ IEA รายงานอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2563 ลดลงจากปีก่อน 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับลดจากคาดการณ์ในครั้งก่อน 40,000 บาร์เรลต่อวัน) อยู่ที่ 91.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดการณ์ว่าในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 96.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปรับลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า 300,000 บาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก🛢
➕ หลังจากที่นาย Joe Biden ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งวันที่ 20 ม.ค. 64 ได้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างส่วนต่อขยายท่อขนส่งน้ำมัน Keystone XL ในสหรัฐฯ (กำลังสูบถ่าย 830,000 บาร์เรลต่อวัน) อีกทั้ง ได้ลงนามในคำสั่งห้ามออกใบอนุญาต การขุดเจาะน้ามัน (Drilling Permits) บนพื้นที่ของรัฐบาล (Federal Land) เป็นเวลา 60 วัน
แนวโน้มราคาน้ำมัน🛢
สัปดาห์นี้คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 54.5 – 59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดย EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค. 64 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 4.4 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 486.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.2 ล้านบาร์เรล ทางด้านปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ หน่วยรักษาความปลอดภัย (Petroleum Facilities Guard: PFG) ขู่จะหยุดดำเนินการสูบถ่ายน้ำมันที่ท่าส่งออกน้ำมันดิบ Es Sider (กำลังการสูบถ่าย 350,000 บาร์เรลต่อวัน), Ras Lanuf (กำลังการสูบถ่าย 200,000 บาร์เรลต่อวัน) และ Marsa el-Hariga (กำลังการสูบถ่าย 140,000 บาร์เรลต่อวัน) เพื่อเรียกร้องให้ National Oil Corp. (NOC) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียจ่ายค่าจ้างที่ค้างชำระตั้งแต่ปี 2562 อย่างไรก็ตาม ให้จับตามอง รัฐสภาของสหรัฐฯลงมติรับรอง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “American Rescue Plan” มูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนล่าสุด นาย Joe Biden ทั้งนี้ ตลาดคาดหวังว่ามาตรการด้านเศรษฐกิจข้างต้นจะบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 และช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้