กทม. เล็งเพิ่มการนำขยะมาเป็นพลังงานมากกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2575 พร้อมลดการกำจัดขยะแบบฝังกลบเหลือร้อยละ 30 ในปี 2567
นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึง แผนการกำจัดขยะของ กรุงเทพมหานครว่า กทม.มีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการกำจัดขยะ โดยการนำขยะมาเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ได้มากกว่า 50% ภายในปี 2575 รวมถึงมีแผนที่จะลดปริมาณการกำจัดขยะโดยการนำขยะไปฝังกลบลง
โดยในส่วนของการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงานนั้น ปัจจุบัน กทม. มีโครงการโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อมหนองแขม ขนาด 500 ตันต่อวัน อยู่ 1 แห่ง ตั้งอยู่ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ในอนาคตมีแผนที่จะพัฒนาโครงการลักษณะเดียวกันเพิ่มขึ้นอีก 2 โครงการ
ได้แก่ โครงการกำจัดมูลฝอยด้วยวิธีการเผาไหม้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ขนาด 1,000 ตันต่อวัน และโครงการกำจัดมูลฝอยด้วยวิธีการเผาไหม้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ขนาด 1,000 ตันต่อวัน
นอกจากนี้ ยังมีการนำขยะมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF หรือเชื้อเพลิงแห้ง และการนำขยะมาหมักทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์รวม 2,000 ตันต่อวัน การนำขยะมาแปรรูปเป็นไบโอแก๊สเพื่อผลิตไฟฟ้าอีก 800 ตันต่อวัน
“คาดว่าในปี 2567 เมื่อโครงการต่างๆ แล้วเสร็จ ปริมาณขยะที่ถูกนำไปฝังกลบจะลดลงจาก 80% เหลือไม่เกิน30%”
สำหรับความคืบหน้าโครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอย โดยระบบเตาเผามูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และโครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอย โดยระบบเตาเผามูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช นั้น
กทม.ได้ลงนามในสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2562 โดยมีกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ซึ่งก่อนเริ่มการก่อสร้างผู้ได้รับสัญญาจาก กทม.ต้องดำเนินการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดทำรายงานประมวลหลักการปฏิบัติ (Code of Practice : CoP) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้ขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิง
เพื่อยื่นเสนอขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประกอบในการขออนุญาตผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า และการจัดทำรายงานการศึกษามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (Environmental and Safety Assessment : ESA) เพื่อเสนอต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมประกอบการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน เมื่อดำเนินการขออนุญาตต่างๆ เสร็จเรียบร้อยจึงจะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการได้