กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ยืนยันการเข้าพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณของ ปตท.สผ.ในฐานะโอเปอเรเตอร์รายใหม่ ในระบบแบ่งปันผลผลิตจะไม่มีปัญหา โดยแนวโน้มเชฟรอนซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานเดิมให้ความร่วมมืออย่างดี ระบุขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่และจัดทำ EIA มั่นใจผลิตก๊าซฯได้ต่อเนื่องไร้ปัญหาสะดุดช่วงรอยต่อสิ้นสุดสัมปทาน เม.ย.2565 ส่วนการเปิดสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่ รอบที่ 23 ต้องรอจังหวะราคาน้ำมันจูงใจนักลงทุนและให้ปัญหาโควิด-19 ของโลกคลี่คลายก่อน
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้าพื้นที่แหล่งผลิตปิโตรเลียมเอราวัณ ของบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในกลุ่มบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ในฐานะโอเปอเรเตอร์รายใหม่ภายใต้ระบบแบ่งปันผลผลิต เพื่อเตรียมการผลิตก๊าซธรรมชาติให้ต่อเนื่องจากผู้รับสัมปทานรายเดิม คือ บริษัท เชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด ที่จะหมดอายุสัมปทานในเดือนเม.ย.ปี 2565 ว่า ทั้งบริษัท ปตท.สผ.และ เชฟรอน มีแนวโน้มให้ความร่วมมือกันในการเข้าพื้นที่เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ ปตท.สผ.อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ เพื่อตรวจสอบว่าจะวางแท่นผลิตปิโตรเลียมได้หรือไม่ และกำลังจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย
ทั้งนี้กรมฯยืนยันว่าการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณจะไม่เกิดปัญหา และการผลิตก๊าซฯจะต้องมีต่อเนื่องเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
ส่วนการเปิดให้เอกชนยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ รอบที่ 23 นั้น ขณะนี้กรมฯ ได้กำหนดขนาดและพื้นที่แปลงที่จะเปิดสำรวจไว้เตรียมเสนอนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้พิจารณาเร็วๆนี้ ซึ่งเบื้องต้นทางนายสุพัฒนพงษ์ เห็นว่าการเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 23 จะต้องรอจังหวะให้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ของโลกคลี่คลายก่อน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเดินทางเข้ามาศึกษาข้อมูลพื้นที่ปิโตรเลียมของไทยได้
รวมทั้งต้องรอจังหวะให้ราคาน้ำมันตลาดโลก อยู่ในระดับที่จูงใจนักลงทุนให้เข้ามาขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมด้วย โดยมองว่าขณะนี้ราคาน้ำมันซึ่งอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ยังคงเป็นราคาที่ไม่จูงใจให้นักลงทุนรายใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งหากเปิดประมูลในจังหวะที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลให้การแข่งขันต่ำและทำให้ประเทศชาติได้รับสิทธิประโยชน์น้อยลง