พี่วาฬเชื่อว่าทุกๆ คนคงทราบกันดีว่าในยุคนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาโลกทั้งในด้านอุตสาหกรรมและสังคม ทำให้สถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วโลกต่างมุ่งเน้นการสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพในด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และคณิตศาสตร์ (STEM) ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่อนาคต ตัวอย่างสถาบันที่มีชื่อเสียงในระดับโลก เช่น MIT, Stanford, ETH Zurich, และ Caltech ที่เป็นสถานที่บ่มเพาะนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ที่มีศักยภาพออกมามากมาย บุคลากรเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาวิทยาการใหม่ๆ แต่ยังเป็นหัวใจแห่งโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้อีกด้วย🎓
สำหรับประเทศไทยเองก็มี KVIS (โรงเรียนกำเนิดวิทย์) และ VISTEC (สถาบันวิทยสิริเมธี) ที่ก่อตั้งโดยกลุ่ม ปตท. มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนานักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ โดยมีแนวทางที่คล้ายคลึงกับสถาบันระดับโลก วันนี้พี่วาฬจะพาทุกคนไปรู้จักกับ KVIS และ VISTEC ให้มากยิ่งขึ้น ว่า 2 สถาบันนี้น่าสนใจยังไง? มีหลักสูตรในการสอนยังไง? และจะช่วยพัฒนาประเทศได้แค่ไหน? ตามพี่วาฬมาเลยย
KVIS (โรงเรียนกำเนิดวิทย์) – โรงเรียนแห่งการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 🌟🔬
KVIS ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนโดยกลุ่ม ปตท. มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนานักเรียนในด้าน วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี (STEM) ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผ่านหลักสูตรที่มีคุณภาพสูง และเน้นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยวิธีการเรียนการสอนที่ทันสมัยและมีความหลากหลาย ซึ่งด้วยวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ สถาบันนี้จึงเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนมีโอกาสศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในสถาบันอุดมศึกษาระดับชั้นนำภายในประเทศและในระดับโลก โดยนักเรียนของ KVIS นั้นมีศักยภาพและสมรรถนะในด้านวิทยาศาสตร์อยู่ในขั้นสูงมากจากผลการแข่งขันทั้งเวทีระดับชาติและนานาชาติ เช่น International Science Olympiads, Regeneron International Science and Engineering Fair (ISEF), International Young Physicists’ Tournament (IYPT), และ MTMC Year 3 Made to Move Communities และนักเรียนในแต่ละรุ่นยังมีผลคะแนนการสอบข้อสอบมาตรฐาน SAT และ AP รวมเฉลี่ยสูงกว่าผลคะแนนเฉลี่ยของผู้เข้าสอบทั่วโลกอย่างมาก ปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียนศึกษา 10 รุ่น สำเร็จการศึกษาแล้ว 7 รุ่น รวมจำนวนผู้สำเร็จการศึกษา 494 คน
จุดเด่นของ KVIS
🎓 การศึกษาที่มุ่งเน้นการคิดสร้างสรรค์: KVIS ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะที่สำคัญในด้าน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ด้วยหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนคิดอย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ และสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง ทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นในทีมอีกด้วย
🔬 การเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย: นักเรียนที่ KVIS จะได้รับโอกาสในการทดลองและศึกษาวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการที่มีอุปกรณ์ครบครัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนความเข้าใจในทฤษฎีต่างๆ ผ่านการทดลองจริง
🏅 โครงการวิจัยและการแข่งขันทางวิทยาศาสตร์: KVIS ส่งเสริมนักเรียนให้เข้าร่วมในกิจกรรมการแข่งขันและโครงการวิจัยระดับชาติรวมถึงระดับนานาชาติ เช่น International Science Olympiad หรือ ISEF ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความสามารถในเวทีระดับโลก
💡 เสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำและความรับผิดชอบต่อสังคม: นอกเหนือจากการศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์แล้ว KVIS ยังเน้นการพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำและความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ CSR (Corporate Social Responsibility) และการเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่ให้โอกาสนักเรียนได้พัฒนาตนเอง ได้รู้จักปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ และรู้จักคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน อันนี้พี่วาฬปรบมือให้เลย 👏
VISTEC (สถาบันวิทยสิริเมธี) – ศูนย์วิจัยและการศึกษาด้านนวัตกรรม 🚀🔬
VISTEC เป็นสถาบันที่เปิดสอนในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก (หลักสูตรนานาชาติ) โดยเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ (Education Zone) ในเมืองแห่งนวัตกรรม Smart City วังจันทร์วัลเลย์ของกลุ่ม ปตท. อีกด้วย โดย VISTEC นั้นมุ่งเน้นการสร้าง นักวิจัย และ นักนวัตกรรม ที่มีความสามารถสูงในด้าน เทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในสาขาที่ต้องการความล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่สามารถขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า VISTEC จึงเน้นการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาที่สำคัญในระดับโลก เช่น พลังงานสะอาด เทคโนโลยีชีวภาพ และ อุตสาหกรรมดิจิทัล โดยเปิดสอน 4 สำนักวิชา ที่ถือเป็นแกนหลักของนวัตกรรมสมัยใหม่ ที่สอดรับกับเทรนด์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ New S-Curve ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในอนาคต ได้แก่
- สำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล (School of Molecular Science and Engineering : MSE)
- สำนักวิชาวิทยาการพลังงาน (School of Energy Science and Engineering : ESE)
- สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ชีวโมเลกุล (School of Biomolecular Science and Engineering : BSE)
- สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (School of Information Science and Technology : IST)
นอกจากนี้ VISTEC ยังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติทั้งในด้านผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับโลก และได้รับการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ Nature Index (www.natureindex.com) ให้เป็น
- อันดับ 1 ในประเทศไทยในด้านเคมี (Chemical sciences), วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life sciences) และวิทยาศาสตร์รวมทุกสาขา (All sciences)
- อันดับ 2 ในด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical sciences)
- อันดับ 3 ด้านเคมี (Chemical sciences) ในระดับ ASEAN (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2565)
โดย VISTEC ได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานไว้ เป็น 3 ด้านคือ
🎓 ด้านวิชาการการพัฒนานักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้า: VISTEC เน้นการพัฒนาทักษะด้านการวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้รับการสนับสนุนจากอุปกรณ์และเทคโนโลยีระดับโลก ทั้ง วิทยาการโมเลกุล (Molecular Science) วิทยาการพลังงาน (Energy Science) วิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล (Biomolecular Science) และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Science and Technology) ซึ่งเป็นสาขาที่สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาของ New S-Curve ของอุตสาหกรรมไทย ที่เน้นการเติบโตในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งมีโอกาสเข้าร่วมในงานวิจัยระดับนานาชาติ ทำให้การศึกษาในสถาบันแห่งนี้สามารถพัฒนานักวิจัยชั้นยอดที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล โดยเฉพาะการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารชั้นนำระดับโลก เช่น Nature Index และ Science Advances
💡 ด้านการต่อยอดเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่ภาคอุตสาหกรรม: หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ VISTEC คือการนำงานวิจัยจากห้องปฏิบัติการไปสู่การใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชีววิทยาศาสตร์ พลังงานทดแทน และการพัฒนาเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่างๆ การเปิดตัว Frontier Research Center ของ VISTEC เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่สำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างการวิจัยและภาคธุรกิจ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
🚀 ด้านการสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ตอัพ (Startup): VISTEC ยังให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะสตาร์ตอัพ ในสายเทคโนโลยีขั้นสูงหรือ Deep Tech ผ่าน VISUP Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ตอัพในด้านเทคโนโลยี โดยการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนในด้านการระดมทุน เทคโนโลยี และทรัพยากรต่างๆ ทำให้สตาร์ตอัพที่ได้รับการสนับสนุนจาก VISTEC สามารถพัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการสร้างงานในอนาคต
ตัวอย่างความสำเร็จของสตาร์ตอัพจาก VISTEC
- VISAI: บริษัทที่ให้บริการด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับธุรกิจทุกขนาด เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและใช้ AI ที่มีคุณภาพสูงได้ โดยมีโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในทุกภาคส่วน
- SensAI: บริษัทที่ใช้ AI เพื่อตรวจจับความผิดปกติในร่างกาย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ หรืออาการผิดปกติในการหายใจ โดยใช้เซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อกับ AI เพื่อให้การตรวจจับอาการผิดปกติในสุขภาพเป็นไปอย่างแม่นยำ
- Cleantech and Beyond: บริษัทที่พัฒนาวัสดุขั้นสูงจากงานวิจัยด้านวัสดุศาสตร์ และนำมาใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการเชื่อมโยงระหว่างงานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริงในอุตสาหกรรม
พี่วาฬเล่ามาถึงตรงนี้ยังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อนๆ คงจะได้รู้จักถึงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง และได้ข้อมูลมากขึ้นแล้วว่า KVIS และ VISTEC นั้นเป็นสถาบันที่มุ่งเน้นสร้างบุคลากรที่จะเป็นกำลังสำคัญของไทยในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และพร้อมมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนานวัตกรรมที่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมไทย และด้วยการสนับสนุนจากกลุ่ม ปตท. ที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน พี่วาฬเชื่อว่าจะยิ่งทำให้ทั้งสถาบันทั้งสองแห่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยในระดับสากลได้อย่างมั่นคงอย่างแน่นอน
ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จากพี่วาฬได้อีกในครั้งต่อไป สวัสดีคร้าบ 🐋
แหล่งข้อมูลอ้างอิง