อาหาร Plant-based คืออะไร? แล้วดีอย่างไร?
วันนี้พี่วาฬอยากมาแนะนำให้รู้จักกับอาหาร Plant–based อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพของทุกคน สงสัยกันแล้วสินะว่า อาหาร Plant–based คืออะไร? เดี๋ยวพี่วาฬอธิบายให้ฟังเอง
อาหาร Plant-Based คือ การที่เรากินผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว และอื่น ๆ เป็นหลัก และถูกแปรรูปออกมาในรูปแบบอาหารแทนที่เราจะใช้เนื้อสัตว์นั่นเอง พี่วาฬคิดว่าคำที่เพื่อน ๆ จะได้ยินบ่อย ๆ ก็คือ Plant-Based Food อาหารทางเลือกที่ทำมาจากพืช 100% บริโภคแทนเนื้อสัตว์ได้เพราะเป็นอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูง แถมยังให้เนื้อสัมผัสที่ดี คล้ายกับเนื้อสัตว์เลยล่ะ อาหาร Plant-based สามารถแบ่งแยกย่อยได้ถึง 5 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 ถั่วทุกชนิด เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว ถั่วเหลือง งา เมล็ดฟักทอง
กลุ่มที่ 2 ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวโพด
กลุ่มที่ 3 ผักทุกชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียว
กลุ่มที่ 4 ผลไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ตามฤดูกาล
กลุ่มที่ 5 พืชมีหัว เช่น มันฝรั่ง เผือก มันเทศ
พี่วาฬบอกเลยว่ามีตัวเลือกให้เราเลือกกินได้หลายแบบ อีกอย่างอาหาร Plant–based แต่ละชนิดล้วนมีคุณค่าโภชนาการ มีสารอาหารกลุ่มวิตามินและโปรตีนที่แตกต่างกันออกไปด้วย
อาหาร Plant–based ดีกว่ากินเนื้อสัตว์ที่มาจากปศุสัตว์จริงไหม?
ถ้าเป็นด้านสุขภาพอาจจะยังต้องศึกษาก่อน แต่ถ้าด้านสิ่งแวดล้อม พี่วาฬคอนเฟิร์มเลยว่า “กินอาหาร Plant-based ดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่ากินเนื้อสัตว์แน่นอน” เพราะอะไรนะเหรอ มา ๆ พี่วาฬเล่าให้ฟังเอง อย่างแรกอาหาร Plant-based มีส่วนดูแลสิ่งแวดล้อมมากกว่า เพื่อน ๆ รู้ไหมว่าในแต่ละปีก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากภาคเกษตรและอาหารสูงถึง 1 ใน 3 ของก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะภาคปศุสัตว์ที่ปล่อยก๊าซประมาณ 7.2 พันล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็นประมาณ 13% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด นอกจากนี้ การทำปศุสัตว์ยังต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าและธรรมชาติในพื้นที่ ดังนั้น ยิ่งฟาร์มปศุสัตว์ใหญ่แค่ไหน ยิ่งต้องการพื้นที่มากเท่านั้น ยิ่งส่งผลทำลายสิ่งแวดล้อมมากตามไปด้วยเพราะป่าไม้ ต้นไม้ ลดลง พื้นที่สีเขียวมีไม่มากพอจะดูดซับก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากการทำปศุสัตว์ ส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศมากขึ้น ยังไม่หมดนะ มูลสัตว์ยังเป็นบ่อเกิดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศโลกเต็ม ๆ
สำหรับอาหาร Plan-based นั้นช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำปศุสัตว์ได้เยอะมาก ๆ เช่น ใช้พื้นที่น้อยกว่าในการเพาะปลูกพืชผัก อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็น้อยกว่า หรืออาจไม่สร้างมลพิษ แถมยังมีพืชผักบางชนิดช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีอีกด้วย พี่วาฬคิดว่าเพื่อน ๆ คงเข้าใจกันและเริ่มหันมาสนใจอาหาร Plant-based มากขึ้นแล้วแน่ ๆ เลย ต่อไปเราไปดูข้อดีของอาหาร Plant-based food กัน
ข้อดีของอาหาร Plant–based Food ทางเลือกเพื่อสุขภาพ
อย่างแรก ช่วยปรับสมดุลร่างกาย กินอาหาร Plant-based ได้ทั้งไฟเบอร์ วิตามิน และโปรตีนในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะไฟเบอร์ที่ช่วยให้ร่างกายของเราปรับสมดุล ขับถ่ายได้ดี และสำหรับสาว ๆ ท่านไหนที่อยากควบคุมน้ำหนัก อาหาร Plant-based น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพราะเป็นอาหารไขมันต่ำ ไฟเบอร์เยอะ โปรตีนกำลังดี ตอบโจทย์สุด ๆ ไปเลย
อาหาร Plant-based ช่วยให้ระบบโลหิตในร่างกายเราไหลเวียนได้ดี ลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน เป็นต้น จริง ๆ ยังมีประโยชน์อีกเยอะแยะที่พี่วาฬคิดว่า วันนี้ทั้งวันก็บอกไม่หมดหรอก ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากรู้ละก็ ไปหาซื้ออาหาร Plant-based มาลองชิมดูสิ แล้วจะซื้อที่ไหนดี มา พี่วาฬจะชี้เป้าให้
ร้าน alt.Eatery คอมมูนิตี้ร้านอาหาร Plant-based ใจกลางกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับกลุ่มคนในเมืองที่รักสุขภาพและต้องการลิ้มรสอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพดูสักครั้ง มีอาหารให้เลือกหลากหลาย บางเมนูเพื่อน ๆ ได้กินแล้วคงไม่เชื่อแน่ว่าทำมาจากพืช นอกจากนี้ ร้านอาหารยังมีกิจกรรม workshop สอดแทรกความรู้และให้เราใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีก
พิกัด : https://goo.gl/maps/GZ8Z8jjoFfQgg9i49
สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากกินอาหาร Plant-based แต่ไม่สะดวกไปที่ร้าน พี่วาฬก็มีข่าวดีมาบอกเช่นกัน บริษัท นิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน จำกัด (NRPT) ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช ได้นำแบรนด์ Wicked Kitchen ซึ่งเป็นแบรนด์อาหาร Plant-based 100% ระดับโลกจากประเทศอังกฤษมาจัดจำหน่ายในประเทศไทยผ่านร้านฟู้ดรีเทลอันดับ 1 ของไทยอย่าง Tops และ Tops Food Hall 50 สาขาทั่วประเทศ รวมไปถึงช่องทาง Tops Online เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้น พร้อมมีเมนูอาหาร Plant-based ที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่ม Frozen Ready meals กลุ่มของหวาน กลุ่ม Frozen pizza และไอศกรีม ในอนาคตจะมีแผนเพิ่มเมนูอาหาร Plant-based ให้หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ NRPT ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด บริษัทในกลุ่ม ปตท. และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ได้ร่วมมือกับ บริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศอังกฤษ (Plant & Bean (UK)) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศไทย (Plant & Bean (Thailand)) ดำเนินการสร้างโรงงานผลิตอาหารโปรตีนจากพืชที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ด้วยกำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศอังกฤษในการผลิตโปรตีนจากพืช ให้มีเนื้อสัมผัส รสชาติและรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง มีการรองรับมาตรฐานฮาลาลและมาตรฐานความปลอดภัยอาหารสากลจากสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (The British Retail Consortium : BRC) ถึงแม้ว่าในระยะเริ่มต้นจะเป็นการนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตก่อน แต่สุดท้ายจะเป็นการใช้วัตถุดิบหลักจากเกษตรกรไทยทั้งหมด เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เห็ด สาหร่าย เป็นต้น ในอนาคตโรงงานแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดจำหน่ายอาหาร Plant-based ให้กับตลาดทั่วภูมิภาคอาเซียน พร้อมรองรับการพัฒนาธุรกิจอาหารสำหรับอนาคต (Food for Future) สอดคล้องเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ พี่วาฬคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงอาหารทางเลือกสุขภาพได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทยอีกด้วย
อ้างอิง
https://www.pttplc.com/th/Media/News/Content-31496.aspx?page=4
https://www.pttplc.com/th/Media/News/Content-35533.aspx
https://www.pttplc.com/th/Media/News/Content-30273.aspx
https://www.prachachat.net/economy/news-1029005
https://blog.lumahealth.com/th/what-is-plant-based-food
https://www.thaipost.net/environment-news/84564/
https://www.prachachat.net/economy/news-1036417
https://www.nestleprofessional.co.th/harvest-gourmet/plant-based-trends
https://food.trueid.net/detail/oaKlJx3YZlbD