✔️ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent และ NYMEX WTI เฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 และ ราคาน้ำมันดิบ Dubai เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยนักวิเคราะห์รวมถึง กลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) คาดว่าผลกระทบของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์เพียงระยะสั้นและไม่รุนแรง OPEC+ จึงมีมติเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.พ. 65 ที่ระดับ 400,000 บาร์เรลต่อวัน โดย OPEC+ คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะสูงกว่าอุปสงค์ในเดือน ม.ค. และ ก.พ. 65 อยู่ที่ 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ (ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ)
✔️นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนจากสถานการณ์ความไม่สงบในคาซัคสถาน ซึ่งเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยแหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และเป็นสมาชิกของกลุ่ม OPEC+ หลังประชาชนออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา กรณีรัฐบาลยุติการตรึงราคา LPG ทำให้ราคา LPG เพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เท่า โดยล่าสุด ราคา LPG ในคาซัคสถานอยู่ที่ $0.28/litre เพิ่มขึ้นจากระดับเดิมซึ่งตรึงไว้ที่ $0.14/litre กระทบต่อการใช้ยานพาหนะของประชาชน ซึ่งกว่า 90% เป็นยานพาหนะที่ใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิงหลัก เป็นเหตุให้รัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม สำนักงานประธานาธิบดีคาซัคสถานประกาศ ณ วันที่ 9 ม.ค. 65 ว่าสถานการณ์ในประเทศเข้าสู่ความสงบแล้ว และรัฐบาลสามารถยึดอาคารที่ทำการทั้งหมดคืนจากกลุ่มผู้ประท้วง หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากทหารรัสเซียเพื่อควบคุมการจลาจล การประท้วงครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 164 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บนับพันคน
✔️บริษัท Tengizchevroil (TCO) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง KazMunayGas บริษัทน้ำมันแห่งชาติคาซัคสถาน กับ Lukoil, Chevron และ Exxon Mobil ที่ทำหน้าที่บริหารแหล่งน้ำมัน Tengiz (0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เปิดเผยว่าได้เริ่มทยอยกลับมาดำเนินการแหล่งผลิตน้ำมัน Tengiz อนึ่ง ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของคาซัคสถานในเดือน ธ.ค. 64 อยู่ที่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
✔️ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้ราคา ICE Brent มีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 79.5 – 83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และมีโอกาสที่ ICE Brent จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ คือ 85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
➕EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 64 ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 417.9 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบในคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 593.8 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 45
🛢ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
➖ Baker Huges รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig Count) ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. 65 เพิ่มขึ้น 1 แท่น จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 481 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63