สถานการณ์น้ำมัน สัปดาห์ 21-25*ธ.ค. 63 และคาดการณ์สัปดาห์ 28 ธ.ค. 63 – 1 ม.ค. 64 โดยหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ🛢
➖ สหราชอาณาจักร (UK) พบ COVID-19 แบบกลายพันธุ์ ซึ่งแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม 70% ทำให้ทั่วโลกออกมาตรการควบคุมการเดินทางจากอังกฤษเข้มงวดขึ้น อาทิ หลายประเทศในยุโรปปิดชายแดน ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย, โอมาน, และคูเวต ประกาศงดรับเที่ยวบินจาก ล่าสุด UK เพิ่มพื้นที่ทางตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ เป็นเขตควบคุมสูงสุด (ระดับ 4) โดยประชาชนควรอยู่แต่ในที่พักอาศัย และจำกัดการเข้า-ออกพื้นที่ ตั้งแต่ 26 ธ.ค. 63
➖ Baker Hughes Inc. รายงานจำนวน Rig ขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 23 ธ.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1 แท่น อยู่ที่ 264 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 63
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก🛢
➕ Reuters รายงานทางการจีนประกาศโควตานำเข้าน้ำมันดิบสำหรับโรงกลั่นเอกชนรอบแรกในปี 2564 อยู่ที่ 122.59 ล้านตัน สูงกว่ารอบแรกในปีก่อน 18% ทั้งนี้ในปี 2563 จีนออกโควตาให้โรงกลั่นเอกชนรวม 184.55 ล้านตัน
แนวโน้มราคาน้ำมัน🛢
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลง ➖
ภายใต้การซื้อขายเบาบางหลังช่วงเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้นักลงทุนยังคงกังวลต่อเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ใน UK อย่างไรก็ตาม UK และสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ก่อน UK จะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก EU หรือ Brexit ในวันที่ 31 ธ.ค. 63 โดยเจรจากฎเกณฑ์ในการทำธุรกิจต่างๆ รวมถึงประเด็นการทำประมงในอนาคต ได้สำเร็จ อีกทั้งล่าสุด ณ คืนวันที่ 27 ธ.ค. 63 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ประธานาธิบดี นาย Donald Trump ได้ลงนามกฎหมายมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รวมทั้งงบประมาณวงเงิน 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลกลางสามารถใช้จ่ายจนถึงสิ้นปีงบประมาณ (30 ก.ย. 64)
ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะเคลื่อนไหวที่ระดับ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ให้จับตาการประชุมกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 4 ม.ค. 64 ซึ่งรัสเซียแสดงท่าทีสนับสนุนให้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันอีก 500 KBD ในเดือน ก.พ. 64 จากข้อตกลงเดิม ที่ลดปริมาณการผลิต 7.2 MMBD ในเดือน ม.ค. 64
