ข่าวพลังงาน ธุรกิจ

“UAC”รุกปรับโครงสร้างธุรกิจขายหุ้น Non-Core Business เน้นธุรกิจพลังงานทดแทน-เคมีภัณฑ์สะอาด

Pinterest LinkedIn Tumblr

“UAC”รุกปรับโครงสร้างธุรกิจขายหุ้น Non-Core Business เน้นธุรกิจพลังงานทดแทน-เคมีภัณฑ์สะอาด, Whale Energy Station

UAC จัดทัพโครงสร้างธุรกิจบริษัทย่อยใหม่ ขายหุ้น บจ.ยูเอซี ยูทิลิตีส์ 30% ให้กับบริษัท พีทีอี พลัส จำกัด (PTE Plus) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจให้บริการในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และขายหุ้นทั้งหมด ในบจ.เซบิก๊าซ ยูเอซี 49.00% พร้อมประกาศขอมุ่งพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทน–เคมีภัณฑ์สะอาดเป็นหลัก ตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในอนาคต

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมบริษัทฯ ได้มีมติให้บริษัทเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นในบริษัทย่อย และบริษัทร่วมทุน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานตามนโยบายในการมุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในอนาคต

สำหรับรายละเอียดสำหรับการขายหุ้น มีดังนี้ บมจ.ยูเอซี โกลบอล(UAC) ในฐานะผู้ถือหุ้น 99.998% ในบริษัท ยูเอซี ยูทิลิตีส์ จำกัด ได้ขายหุ้น จำนวน 30% ให้กับบริษัท พีทีอี พลัส จำกัด (PTE Plus) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจให้บริการในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งบริษัทเล็งเห็นว่าการเข้ามาถือหุ้นของ PTE Plus จะส่งผลบวกกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในอนาคต เพราะบริษัทฯมีทั้งโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) โรงไฟฟ้าเสาเถียรเอ และโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่าที่มีการใช้พลังงานในรูปแบบก๊าซ ธรรมชาติที่เผาทิ้งเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต

ขณะที่ในด้านบริษัทย่อย ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัดที่ UAC ถือหุ้นอยู่ 100% ได้มีการขายหุ้นในบจ.เซบิก๊าซ ยูเอซี ทั้งหมด 49% ให้กับ น.ส.ธัญพัฒน์ นันท์พันธ์ เนื่องจากเซบิก๊าซ ยูเอซีดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ซึ่งจัดว่าเป็น Non-Core Business เพื่อเอื้อต่อการปรับโครงสร้างธุรกิจให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นการลงทุนด้านพลังงานทดแทน และเคมีภัณฑ์สะอาดเป็น Core Business

“การปรับโครงสร้างธุรกิจในบริษัทย่อยครั้งนี้ เพื่อเป็นการวางกรอบการดำเนินธุรกิจของ UAC ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ตามนโยบายการลงทุนทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อสร้างอัตราการเติบโตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจ Trading พลังงานทดแทน และโรงงานผลิตในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ต่อไปในอนาคต”