กบน.ถก 27 พ.ย.นี้ เคาะมาตรการอุ้มราคาขายปลีก LPG ภาคครัวเรือน อยู่ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อหรือไม่ หลังกรอบวงเงิน 1 หมื่นล้านบาทใกล้เต็มเพดานในเดือน ธ.ค.นี้
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ในวันที่ 27 พ.ย. 2563 จะพิจารณาแนวทางดูแลราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ที่จะสิ้นสุดมาตรการช่วยตรึงราคาขายปลีก LPG ภาคครัวเรือน อยู่ที่ 318 บาทต่อกิโลกรัมต่อถัง 15 กิโลกรัม ในเดือน ธ.ค. 2563
ขณะที่ กรอบวงเงินที่ใช้พยุงราคา LPG เดิมกำหนดไว้ให้ใช้ได้ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ล่าสุด (ข้อมูล 1 พ.ย. 2563) ใช้ไปแล้ว 8,131 ล้านบาท และคาดว่า เหลือเงินใช้ได้อีกแค่เดือน ธ.ค. 2563 นี้เท่านั้น จะเต็มกรอบวงเงินแล้ว ประกอบกับราคา LPG ตลาดโลกปรับพุ่งขึ้นสูง จากเดือนปลายเดือนต.ค. 2563 ที่อยู่ระดับ 390 ดอลลาร์ต่อตัน มาอยู่ระดับ 443 ดอลลาร์ต่อตัน ในเดือน พ.ย. 2563 จากความต้องการใช้ทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว จึงอาจส่งผลกระทบต่อราคาLPG ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) จึงได้ขอหารือนอกรอบกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงแนวทางดูแลราคาLPG และได้มอบหมายให้ สกนช. ไปจัดทำแนวทางเพื่อดูแลราคา LPG ไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชนในอนาคตโดยให้นำกลับมาเสนอ กบน.ในวันที่ 27 พ.ย.นี้
สำหรับแนวทางดูแลราคาขายปลีก LPG เบื้องต้น สกนช. วางไว้ 3 ทางเลือก คือ 1.ขยายกรอบวงเงินดูแล LPG เพิ่มขึ้นจาก 10,000 ล้านบาท 2. ขึ้นราคา LPG ให้สะท้อนราคาตลาดโลก และ 3.ปรับลดอัตราภาษี สรรพสามิต LPG และหันไปปรับขึ้นภาษีน้ำมันทดแทน
หาก กบน.สรุปทางเลือกแล้ว จะต้องรอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) อนุมัติอีกครั้ง ในเดือน ธ.ค. นี้ จากนั้น กบน. จะเตรียมกำหนดมาตรการดูแลราคา LPG ให้มีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 เป็นต้นไป