สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 4 – 8 พ.ย. 67 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 11 – 15 พ.ย. 67
ตลาดกังวลประธานาธิบดี Trump พร้อมเดินหน้าเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบ
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ นาย Donald Trump จากพรรค Republican ได้รับชัยชนะ ด้วยคะแนน 312 ต่อ 226 เสียง เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของสหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำมัน และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน รวมถึงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ อาจส่งผลให้ราคาพลังงานลดลง ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 13.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และส่งออกประมาณ 3-5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
วันที่ 8 พ.ย. 67 รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 10 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อพยายามแก้ไขหนี้รัฐบาลท้องถิ่นโดยการกู้เงินใหม่ หรือ Refinance ซึ่งวาณิชธนกิจ UBS Group AG วิจารณ์ว่ามาตรการนี้ไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง และคาดว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมในอนาคต
Reuters รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC (12 ประเทศ) ในเดือน ต.ค. 67 เพิ่มขึ้น 190,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 26.33 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังลิเบีย และเวเนซุเอลาผลิตเพิ่มขึ้น
วันที่ 7 พ.ย. 67 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของ Fed มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 4.50 – 4.75% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปี 2567 สู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ ก.พ. 66 ทั้งนี้ การประชุม FOMC ครั้งถัดไปวันที่ 17-18 ธ.ค. 67